ซุปเปอร์ฟู้ด ถั่วเหลือง

    ทำไมถั่วเหลืองถึงขึ้นชื่อว่าเป็น ‘ซุปเปอร์ฟู้ด ’

    คุณเลี่ยงถั่วเหลืองด้วยสาเหตุอื่นที่ไม่ใช่โรคภูมิแพ้อยู่หรือไม่? ถ้าเป็นเช่นนั้น บทความนี้เหมาะสำหรับคุณ

    คุณเป็นคนชอบถั่วเหลืองอยู่แล้วหรือไม่? หากเป็นเช่นนั้น บทความนี้ก็เหมาะสำหรับคุณเช่นกัน

    มนุษย์มีการบริโภคถั่วเหลืองมาเป็นเวลาหลายพันปีแล้ว แต่ในช่วงไม่กี่ทศวรรษที่ผ่านมา มีการโฆษณาชวนเชื่อมากมายโดยกลุ่มล็อบบี้ของธุรกิจยักษ์ใหญ่ที่เกี่ยวกับเนื้อสัตว์ และผลิตภัณฑ์จากนม ซึ่งมีผลทำให้ภาพพจน์ของถั่วเหลืองตกอยู่ในสภาวะไม่ค่อยดีนักและทำให้ผู้คนให้หลีกเลี่ยงการบริโภคถั่วเหลืองนั่นเอง

    เราไม่ทราบว่าคุณคิดอย่างไรนะ แต่โดยส่วนตัวเราไม่เคยพบคนที่แพ้ถั่วเหลืองเลย แต่ ถึงกระนั้น เราได้ยินว่าผู้คนมากมายเลือกที่จะไม่กินถั่วเหลืองซึ่งเห็นได้ชัดว่าเป็นเพราะเหตุผลด้านสุขภาพ – ขอท่านโปรดลองครุ่นคิดใหม่ดู  เพราะท่านอาจพลาด superfood ในตำนานซึ่งสามารถปลูกได้เกือบทุกที่ในโลกและมีประโยชน์ต่อสุขภาพมากมายนับไม่ถ้วน ตามที่องค์การอาหารและยา (FDA สหรัฐอเมริกา) สำรวจว่ามีเพียง 0.2% ของคนทั้งหมดที่แพ้ถั่วเหลือง ซึ่งน้อยมากถึงมากที่สุด เมื่อเทียบกับ % ของคนที่นมวัว ถั่วลิสง ปลา ข้าวสาลี และอื่นๆ

    เรามาดูให้ลึกกันดีกว่าว่าทำไมถั่วเหลืองถึงเป็นอาหารชั้นยอด Superfood ที่อุดมไปด้วยประโยชน์ 

    ประการแรก ถั่วเหลืองมีโปรตีนที่สมบูรณ์ ซึ่งหมายความว่ามีกรดอะมิโนทั้งหมด 20 ชนิดที่ประกอบเป็นโปรตีนในร่างกายของเรา และที่สำคัญกว่านั้นคือมีกรดอะมิโนที่จำเป็นทั้งหมด 9 ชนิดซึ่งหมายถึงกรดที่ร่างกายไม่สามารถสร้างเองได้ แต่มันต้องมาจากอาหาร ถั่วเหลืองมีโปรตีนสูงมาก ประมาณ 36% ในถั่วดิบ นอกจากนี้ ถั่วเหลืองยังให้ไขมันไม่อิ่มตัวเชิงเดี่ยวและไม่อิ่มตัวเชิงซ้อน คุณภาพสูง (กรดไขมันโอเมก้า-3) ถั่วเหลืองยังเป็นแหล่งวิตามินและแร่ธาตุต่างๆมากมายรวมทั้งแคลเซียม ธาตุเหล็ก โพแทสเซียม วิตามินบี 1 บี 2 บี 3 บี 5 บี 6 บี 9 (กรดโฟลิก) และวิตามินซี (และอื่นๆอีกมากมาย)

    ถั่วเหลืองยังประกอบไปด้วยใยอาหาร (ไฟเบอร์) และ เนื่องจากเป็นพืช จึงปราศจากคอเลสเตอรอล และถ้าเราจะเปรียบเทียบเฉพาะข้อมูลทางโภชนาการของถั่วเหลือง กับ superfood เช่น ควินัว (quinoa) แม้ว่าควินัว ขึ้นชื่อว่าเป็นพืชที่มีคุณค่าทางโภชนาการมากที่สุดแห่งหนึ่งในโลก ถั่วเหลืองก็ยังมีคุณค่าทางโภชนาการมากกว่าควินัว (ทั้งในสารอาหารระดับจุลภาคและสารอาหารระดับมหภาค) อย่าเข้าใจเราผิดว่าเราไม่อวยควินัว ควินัวเป็นธัญพืชที่ดีและดีต่อสุขภาพมาก (โดยเฉพาะ เมล็ด) แต่ข้อดีอีกอย่างของถั่วเหลืองคือสามารถปลูกได้ในทุกทวีปทั่วโลกดังนั้นจึงเป็นทางเลือกที่ยั่งยืนกว่าทั้งที่เรายังไม่ได้เปรียบเทียบค่าใช้จ่ายของ superfoods ทั้งสอง

    อีกสาเหตุหนึ่งที่หลายคนหลีกเลี่ยงถั่วเหลือง ก็น่าจะเป็นเพราะ มีถั่วเหลืองจีเอ็มโอ (GMO พืชที่ถูกตัดต่อพันธุกรรม) ในท้องตลาดเยอะ เรารู้ว่านี่เป็นเรื่องที่น่าตกใจ หรือใจหาย แต่เราควรรู้ไว้ว่าถั่วเหลืองจีเอ็มโอเกือบทั้งหมดถูกปลูกแบบมักว่ายเพื่อมาเลี้ยงปศุสัตว์โดยเฉพาะ และจากข้อมูลของ WWF พบว่า 75% ของถั่วเหลืองที่ปลูกทั่วโลกนั้นเป็นอาหารสำหรับสัตว์ ถั่วเหลืองเหล่านี้ปลูกกันอย่างแพร่หลายในอเมริกาเหนือและใต้และเป็นสาเหตุอันดับ 2 ของการตัดไม้ทำลายป่าในอเมซอนโดยมีการเลี้ยงวัวเป็นสาเหตุอันดับ 1 ซึ่งจูงมืออันดับ 2 ขึ้นแท่นไปด้วยกัน เนื่องจากถั่วเหลืองจีเอ็มโอนี้ถูกป้อนให้กับปศุสัตว์ เมื่อใดก็ตามที่คุณซื้อถั่วเหลือง โปรดเลี่ยงถั่วเหลืองจีเอ็มโอ หรือเมื่อใดก็ตามที่คุณซื้อผลิตภัณณ์จากถั่วเหลืองหรือซื้ออาหารลองมองหาแบบ อินทรีย์ หรือ ออร์แกนิก

    โปรดค้นคว้าพิจารณาเพิ่มเติมเกี่ยวกับการโฆษณาชวนเชื่อต่อต้านถั่วเหลือง  และคุณสามารถเปิดใจรับประโยชน์ทางสุขภาพที่น่าทึ่งของถั่วเหลืองต่อๆไป

    Similar Posts